อลูมิเนียมอัลลอย 6063 T5 เป็นเกรดที่นิยมใช้กันมากในงานโครงสร้าง งานตกแต่งสถาปัตยกรรม และงานอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความแข็งแรงพอสมควร ทนทานต่อการกัดกร่อน และสามารถดัดขึ้นรูปได้ แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ อุณหภูมิในการดัด เพราะมีผลโดยตรงต่อความยืดหยุ่นและการแตกหักของชิ้นงาน

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการดัดอลูมิเนียม 6063 T5
- ดัดเย็น (Cold Bending):
ใช้ในกรณีที่ต้องการดัดองศาเล็ก ๆ เช่น 15–30° โดยไม่ทำให้โครงสร้างเสียหาย อุณหภูมิห้องสามารถดัดได้ แต่ควรใช้รัศมีโค้งที่กว้างพอเพื่อป้องกันการแตกร้าว
- ดัดร้อน (Hot Bending):
หากต้องการดัดองศามากกว่า 45° ควรใช้ความร้อนช่วย โดยช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 150–200°C ซึ่งช่วยให้เนื้ออลูมิเนียมอ่อนตัวลง ดัดง่ายขึ้น และลดโอกาสการแตกร้าว แต่ไม่ควรเกิน 250°C เพราะอาจทำให้โครงสร้างผลึกโลหะเสียหาย
- หลังการดัด:
ควรปล่อยให้เย็นตัวตามธรรมชาติ ไม่ควรใช้การแช่น้ำหรือทำให้เย็นเร็ว เพราะอาจเกิดการบิดงอหรือความเค้นตกค้าง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการดัดอลูมิเนียม
การเลือกใช้อุปกรณ์มีผลต่อคุณภาพงานดัดเช่นกัน
- เครื่องดัดท่อ/โปรไฟล์ (Pipe & Profile Bender):
- ใช้ดัดท่อกลม ท่อเหลี่ยม และโปรไฟล์ต่าง ๆ
- มีทั้งแบบมือโยก (Manual) และแบบไฮดรอลิก (Hydraulic)
- เครื่องดัด CNC (CNC Tube Bender):
- เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและดัดซ้ำหลายชิ้น
- สามารถควบคุมองศาและรัศมีได้ละเอียด
- แท่นให้ความร้อน (Heating Torch / Induction Heater):
- ใช้เตรียมอุณหภูมิก่อนการดัด
- ควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมตามมาตรฐาน
เคล็ดลับการดัดอลูมิเนียม 6063 T5 ให้สวยงาม
- ใช้ Mandrel หรือแกนช่วยภายในท่อ เพื่อลดการบี้แบน
- เลือกรัศมีการดัด (Bending Radius) อย่างน้อย 3 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ (OD)
- ตรวจสอบอุณหภูมิด้วย Infrared Thermometer เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกินค่าที่แนะนำ
สรุป
การดัดอลูมิเนียมอัลลอย 6063 T5 ให้ได้คุณภาพสูง จำเป็นต้องควบคุม อุณหภูมิ อย่างเหมาะสม โดยถ้าเป็นการดัดองศาเล็ก ๆ สามารถทำที่อุณหภูมิห้องได้ แต่ถ้าเป็นงานดัดองศาใหญ่ควรใช้ความร้อน 150–200°C ร่วมกับอุปกรณ์ที่ถูกต้อง เช่น เครื่องดัด CNC หรือเครื่องดัดไฮดรอลิก เพื่อให้ผลงานแข็งแรง ไม่แตกร้าว และสวยงาม