อลูมิเนียมถือเป็นวัสดุอีกประเภทที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการก่อสร้างอาคาร, ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว เครื่องใช้ และอื่น ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ววัสดุประเภทนี้จะมีเกรดที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่อยู่ภายในอันจะให้คุณสมบัติที่แตกต่างกัน อลูมิเนียมเกรด 6063 ถือเป็นอีกประเภทที่มักถูกพูดถึงบ่อย เพราะสามารถใช้งานได้เยอะ มาทำความรู้จักกับอลูมิเนียมเกรดนี้กันดูว่าเป็นอย่างไร แล้วมีอะไรพิเศษมากกว่าเกรดอื่นกันบ้าง
สำหรับอลูมิเนียมเกรด 6063 จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอลูมิเนียมอัลลอยด์ ส่วนผสมหลักที่อยู่ในวัสดุประเภทนี้ได้แก่ ซิลิคอนกับแมกนีเซียม เมื่อปริมาณของส่วนผสมเหล่านี้ตรงตามเกณฑ์เหมาะสมก็จะถูกนำไปขึ้นรูปด้วยวิธีอบร้อน แม้ว่าความทนทานอาจสู้บรรดาเกรดที่ขึ้นต้นด้วย 2 หรือ 7 ไม่ได้มากนักแต่ก็ถือว่ายังสามารถขึ้นรูปทรงได้สวย นำเอาวัสดุที่ขึ้นเป็นทรงเรียบร้อยแล้วมาทำการแปรสภาพเป็นชิ้นงานอื่นได้ง่าย จัดเป็นเกรดอลูมิเนียมที่พบเห็นและนำไปใช้งานบ่อยมาก
อย่างที่กล่าวไปว่าอลูมิเนียมเกรดนี้จะขึ้นทรงง่าย จึงสามารถนำไปใช้ดีไซน์เป็นชิ้นงานประเภทต่าง ๆ ได้สะดวกกว่า ทั้งการแปรสภาพ การเชื่อม แต่ในความง่ายนี้ก็ยังแฝงไว้ด้วยความต้านทานต่อการกัดกร่อน หมายถึง ระดับความแข็งแรงของตัววัสดุยังอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ไม่แตกหักเสียหายง่าย ส่งผลให้วงการอุตสาหกรรมหลายประเภทจะนิยมนำเอามาใช้งานทั้งการทำเป็นชิ้นส่วนข้อต่อ อะไหล่ งานกลึง นอต สกรู ฯลฯ หรือในกรณีที่นำมาทำเป็นชิ้นงานก็มีเยอะโดยเฉพาะบรรดาเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนเครื่องจักร
อีกคุณสมบัติเด่นมากของอลูมิเนียมเกรด 6063 คือ ไม่เป็นสนิม จึงสามารถสัมผัสน้ำได้ทว่าอาจมีรอยคราบอยู่บ้าง ดังนั้นหากชิ้นงานไหนทำจากอลูมิเนียมเกรดนี้แล้วโดนน้ำแนะนำว่าควรรีบเช็ดออกเพื่อให้ความสวย เงางามยังคงเด่นชัดจะดีที่สุด และไม่แนะนำให้นำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องเจอกับไอลมทะเลหรือน้ำทะเล เพราะจะถูกกัดกร่อนได้ง่าย ไม่คงทนมากนัก ความเสียหายเกิดขึ้นเร็วกว่าเกรดขึ้นต้นด้วย 5 ซึ่งเป็นเกรดที่ถูกผลิตขึ้นมาในด้านนี้โดยตรง
ปัจจุบันจะเห็นว่ามีงานหลายประเภทที่ถูกผลิตขึ้นจากอลูมิเนียม แม้ภาพรวมจะถูกเรียกว่าอลูมิเนียมเหมือนกันแต่เมื่อเจาะลึกลงไปแล้วก็พบถึงความแตกต่างในด้านของเกรดซึ่งเกิดขึ้นด้วยส่วนผสมที่มีระดับความเข้มข้นต่างกันออกไปนั่นเอง ดังนั้นใครที่จะใช้งานอลูมิเนียมเพื่อทำชิ้นงานใดอย่าลืมศึกษาความเหมาะสมให้ถูกต้องเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด รวมถึงยังช่วยให้ชิ้นงานนั้นออกมามีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์อย่างดีที่สุดอีกด้วย